วันเสาร์ที่ 30 มิถุนายน พ.ศ. 2555

พระอริยะสงฆ์ ศิษย์หลวงปู่มั่น ภูริทัตตะเถระ ที่น้อยคนนักจะรู้จัก








ภาพ หลวงปู่ป่อง จนฺทสาโร ถ่ายคู่กับ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย 
ณ.พุทธสถาน พุทธโคดม วัดเขาสุกิม ต.เขาบายศรี อ.ท่าใหม่ จ.จันทบุรี
ภาพถ่ายประมาณ ปี พ.ศ.๒๕๒๖

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย พูดถึง หลวงปู่ป่อง จนฺทสาโร
ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลวงน้าของท่าน

คัดบทความจากหนังสือชีวประวัติ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย



 ผมอยู่ทางนี้(วัดป่าศรีไพรวัน) ก็นับว่าเป็นบุญของผมอีกเหมือนกันที่มีครูบาอาจารย์กำลังชักชวนกันที่จะเดินทางไปกราบหลวงปู่มั่นกันหลายคณะ ผมจึงเลือกไปกับคณะของหลวงปู่ป่องซึ่งเป็นญาติหรือเป็นหลวงน้าของผมนั่นเอง..           ( ถอดเทปมาเพียงบางตอนที่หลวงปู่ปรารภเกี่ยวข้องกับท่านพระอาจารย์นาค) " (เดินทางไปกราบตัวเป็นศิษย์หลวงปู่มั่น ปี พ.ศ.๒๔๘๗)










วัดอรุณวิเวกธรรมาราม ต.ดงสิงห์ อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด

แผนที่ ทางไปวัดอรุณวิเวกธรรมาราม จาก อ.จังหาร ไปทาง จ.กาฬสินธ์
ถึงสามแยกทางเข้าบ้านม่วงลาด เลี้ยวซ้ายเข้าปากทางเข้าบ้านม่วงลาด เข้าไป ๖.๕ กิโลเมตร
ถึงหมู่บ้านโคกล่าม เลยไปอีกนิด วัดอยู่ขวามือ




ภาพขยาย สามแยกปากทางเข้าบ้านม่วงลาด




ภาพ เจดีย์อัฐบริขาร หลวงปู่ป่อง จนฺทสาโร ณ.บริเวณภายในวัดฯ





เชิญเข้าชมภายใน และ กราบสักการะ นมัสการ 
พระธาตุที่เกิดจากโลหิต เกศา อัฐิธาตุ




รูปหล่อเหมือน หลวงปู่ป่อง จนฺทสาโร




โลหิตธาตุ ในผอบแก้วที่แปรสภาพ เป็นพระธาตุ




เส้นเกสา ที่รวมตัวกัน ในผอบแก้ว




อัฐบริขารต่างๆ ของหลวงปู่ป่อง จนฺสาโร




ผู้จัดทำบล็อก ได้สอบถามคนในพื้นที่เกี่ยวกับประวัติต่างๆ ทราบมาเป็นบางเรื่อง เช่น

หลวงปู่ป่อง เดิมเป็นคนบ้านน้ำเข็งติดกันกับบ้านเหล่างิ้ว 

ซึ่งเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่สมชาย อ.จังหาร จ.ร้อยเอ็ด

อุปนิสัยของหลวงปู่ป่อง เป็นคนพูดน้อย  ถือสันโดษ ยามท่านยังดำรงธาตุขันธ์ยังแข็งแรง

ท่านปฏิบัติเจริญภาวนาอย่างยิ่งยวดเป็นกิจวัตร

ช่วงระหว่างในชีวิต ท่านได้ออกเดินธุดงค์ไปนับไม่ถ้วน

บางครั้งหลังจากที่หลวงปู่สมชาย ได้เริ่มสร้างวัดเขาสุกิม

ท่านก็ได้เดินทางมาพักที่นี่บ้างเป็นบางครั้ง 

ภายหลังช่วงที่หลวงปู่ป่อง กาล ๕ พรรษาสุดท้าย

ท่านได้เดินทางมาอยู่ วัดอรุณวิเวกธรรมารามแห่งนี้เป็นที่สุดท้าย

ช่วงประมาณปี พ.ศ.๒๕๓๙ หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้เดินทางมาวัดแห่งนี้

เพื่อเยี่ยม หลวงปู่ป่อง ซึ่งท่านอาพาธอยู่ในขณะนั้น

เมื่่อมาถึง หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย เดินตรงเข้าไปศาลาเล็กๆ ที่สำหรับหลบแดดในบริเวณวัด

ซึ่งอยู่ห่างจากกุฏิที่หลวงปู่ป่อง พักรักษาตัว ประมาณ ๑๐๐ เมตร

หลวงปู่สมชายฯ นั่งตรงนั้นเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว ญาติโยมทั้งหลาย

เห็นท่านนั่งเฉยๆ จนกระทั่งท่านปรารภว่า ให้กลับกันได้แล้ว 

ศิษย์ท่านหนึ่งซึ่งเป็นคนละแวกใกล้วัด จึงกราบเรียนถามหลวงปู่สมชายฯ ว่า

" จะไม่เข้าไปเยี่ยมหลวงปู่ป่อง ซึ่งพักรักษาตัวอยู่ในกุฏิหรือ "

หลวงปู่สมชายฯ ท่านได้เมตตาตอบว่า " อาตมา ได้คุยกันเสร็จแล้ว "

ต่อมาภายหลัง ประมาณปี พ.ศ.๒๕๔๑ หลวงปู่ป่อง จนฺทสาโร ได้ละสังขาร

หลวงปู่สมชาย ฐิตวิริโย ได้เดินทางมาเป็นประธานการจัดงาน ณ.ที่วัดแห่งนี้

และได้มีการเก็บอัฐธาตุของหลวงปู่ป่อง ไว้บนศาลาหอฉัน 

ให้หลังประมาณ ๒ - ๓ ปี ได้มีการทำความสะอาดตู้ที่ใส่อัฐิธาตุของท่าน

จึงพบว่า อัฐิธาตุของท่าน ได้เป็นพระธาตุใสบริสุทธิ์ เส้นเกศาเข้ารวมตัวกันได้เอง

มติคณะสงฆ์ฯ และ กรรมการของทางวัดอรุณวิเวกธรรมมาราม

จึงป่าวประกาศ เชิญศรัทธาชาวพุทธร่วมสร้าง

เจดีย์อนุสรณ์เพื่อเก็บพระธาตุ และ อัฐบริขาร

สร้างคล่อมตรงจุด ที่เผาสรีระสังขารของท่าน

รวมถึงจัดสร้างรูปหล่อ ( จัดสร้างภายหลังจากที่ท่านละสังขารแล้ว )

เพื่อเปิดโอกาศให้ทุกท่านฯ เข้ากราบสักการะได้อย่างสนิทใจ

ในความเป็นพระสุปฏิปัณโณอีกรูปหนึ่ง ที่น้อยคนนักจะรู้จัก

ส่วน

ประวัติโดยตรง ของ หลวงปู่ป่อง จนฺทสาโร

กำลังอยู่ระหว่างติดตาม ค้นหา มาเผยแพร่ข้อมูลให้ทราบภายหลัง

อนุโมทนา
























2 ความคิดเห็น:

  1. สาธุครับ ขอบคุณที่หาข้อมูลให้ได้อ่านประวัติท่าน

    ตอบลบ
  2. สาธุครับ ขอบคุณที่หาข้อมูลให้ได้อ่านประวัติท่าน

    ตอบลบ